สอนสร้างธุรกิจส่วนตัว บทที่4

     บทที่ 4 การหาทุน สร้างธุรกิจ
       มาถึงบทนี้ คุณต้องจริงจังและใส่ใจรายละเอียดของธุรกิจคุณเพิ่มมากขึ้น อย่าคิดว่าแค่ลองทำ คุณจะต้องใส่คำว่าฉันจะทำมันจริงๆ สิ่งที่ผมจะสอนต่อไปนี้ให้คุณพยายามอ่านให้เข้าใจและจับใจความของแต่ละวิธีการหาทุน คุณจะได้ใช้มันตลอดจนกว่าธุรกิจคุณจะประสบความสำเร็จไม่ว่าธุรกิจคุณจะเล็ก,กลางหรือใหญ่ การหาทุนจะไม่ใช่ปัญหาของคุณอีกต่อไป หลายๆคนชอบบอกตัวเองว่า อยากมีธุรกิจแต่ไม่มีเงินทุน ฟังดูเหมือนเจอทางตันตลอด ไม่ว่าจะคิดอะไรออกก็จะไปที่ทางตันเพราะคำว่าไม่มีเงินทุน ถ้าคุณคิดแบบนั้นคุณจะไม่มีเงินทุนเลย คุณต้องเปลี่ยนไปใช้คำว่า ฉันจะหาทุนมายังไง หรือ ฉันต้องหาทุนมาให้ได้ มันฟังดูเหมือนจะมีทางไปต่อ และแน่นอนมันมีทางไปต่อ ผมจะบอกคุณตอนนี้ทั้งหมดเลย แต่คุณต้องจำใว้อย่าง คุณต้องมีธุรกิจก่อนที่จะหาเงินทุน(คุณต้องรู้ก่อนว่าจะทำอะไรแล้วค่อยไปหาเงินทุน ทำตั้งแต่บทแรกมา)คุณอย่าลัดขั้นตอนง่ายๆพวกนี้ เงินทุนมันหามายากถ้ามันต้องรอให้คุณคิดออกว่าจะทำอะไรดีคุณอาจจะเสียเงินทุนก้อนนั้นไปแล้ว จำข้อนี้ใว้ให้ดีๆนะครับ เอาล่ะเข้าสู่ขั้นตอนกันดีกว่า ผมจะใช้แค่ 3 วิธี คือ เก็บเอง , กู้ ยืม , ระดมทุน 3 วิธีนี้คุณจะได้ใช้มันตลอดตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนขยายธุรกิจ
      1.เก็บเอง คือ เงินที่คุณหามาได้แล้วแบ่งเก็บเพื่อนำมาเป็นทุน แต่มันมีข้อจำกัด คือ มันใช้ไม่ได้กับการหาทุนจำนวนมากๆ หากคุณจะใช้วิธีนี้ให้ทำตามนี้เลยครับ
สมมุติ คุณต้องการ 50,000 บาท ใช้สูตรง่ายๆด้วยการ หาร กับ เดือน แล้วมาดูว่าจะใช้เวลากี่เดือน และต้องเก็บเดือนเท่าไหร่
50,000 หาร 6 เดือน = เก็บ 8,333/ด
50,000 หาร 12 เดือน = เก็บ 4,166/ด
แค่ 50,000 นี้อาจจะใช้เวลาเป็นปีแล้ว ถ้าเก็บเป็นแสนๆ คงหลายปี หากคุณไม่รีบหรือใจเย็นพออาจจะใช้วิธีนี้ก็ได้ แต่คุณอย่าลืมว่า ของแพงขึ้นทุกวันยิ่งใช้เวลาเก็บนานทุนที่ต้องใช้ก็ต้องเพิ่มขึ้น วันนี้อาจใช้ 200,000บาท อีก5ปีอาจจะต้องเพิ่มเป็น300,000 บาท วิธีนี้เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลางที่ใชเวลาในการเก็บไม่เกิน 6 เดือน หากคุณเวลานานเกินอายุคุณจะมากและคุณต้องไม่เจ๊งคุณมั่นใจแค่ไหนว่าคุณจะไม่เจ๊ง ถ้าคุณมั่นใจมาก ผมขอถามอะไรสักอย่างว่า ในเมื่อคุณมั่นใจทำไมไม่ทำตั้งแต่ตอนนี้เลยหละ การวางแผนที่ล้มเหลวย่อมไปสู่ความล้มเหลว ส่วนมากคนที่ทำธุรกิจอย่างน้อยๆเขาต้องเคยเจ๊งมาสัก2-3ครั้งแต่ก็ไม่ได้หมายถึงทุกคน บางคนอาจโชคดี บางคนคิดอย่างรอบคอบหรือวางแผนมาดี คุณจะเก็บเงินสัก 10-20ปีแล้วไปเริ่มธุรกิจตอนอายุ 40-50 ผมก็ไม่ว่า คุณจะไปวัดดวงเอาตอนนั้นก็ได้ ถ้าให้ผมบอกผมคงไม่แนะนำให้คุณทำแบบนั้นแน่นอน ถ้าคุณซื้อหวยถูกทุกงวดผมไม่ห้ามคุณเลย โอกาสที่คุณจะสำเร็จในธุรกิจมันมีน้อยถ้าคุณเลือกที่จะเก็บทุนเองคุณต้องเริ่มตอนนี้จากธุรกิจเล็กๆหรือเลเวล1ของธุรกิจนั้น เช่น ร้านซ่อมโทรศัพท์>ขายอุปกรณ์โทรศัพท์>ขายโทรศัพท์>ผลิตโทรศัพท์ ค่อยๆไปแต่เริ่มจากเล็กๆ ระหว่างที่คุณเริ่มร้านเล็กๆคุณจะได้เรียนรู้ประสบการณ์และเทคนิคต่างๆการขายการหาลูกค้าและวิธีเอาชนะคู่แข่ง ถ้าคุณเก็บเงินก้อนใหญ่แล้วลงผลิตโทรศัพท์คุณก็จะได้เรียนรู้แบบเดียวกันแล้วถ้าเจ๊งคุณจะหมดเงินเท่าไหร่และคุณต้องใช้เงินในการทำการตลาดอีกกี่บาท อ่านให้เข้าใจคิดให้ดีๆ ผมไม่ได้บอกว่าเก็บเองมันไม่ดี ผมจะบอกให้ปรับใช้และเลือกใช้วิธีหาทุนให้เข้ากับธุรกิจของคุณให้มากที่สุด คุณจะไม่เสียเงินเสียเวลากับการเริ่ม เพราะมันมีอะไรที่ยากกว่านี้รอคุณอยู่
       2.กู้,ยืม คือ การเอาเงินคนอื่นมาเป็นทุนแต่ต้องคืนเขาและเสียดอกเบี้ย หรือเรียกอีกอย่างการเป็นหนี้ เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนครับว่าการเป็นหนี้มันดีหรือไม่ดี การมีหนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีครับบอกตรงๆเลย คนส่วนมากเป็นหนี้เพราะอยากได้สิ่งของต่างๆแต่ตัวเองไม่มีเงินสดซื้อเลยต้องกู้ยืมหรือใช้เครดิตมีเพียงส่วนน้อยที่กู้ยืมเพราะความจำเป็น ทั้ง2อย่างมองในภาพรวมคือไม่ดีแตกต่างตรงที่การใช้ประโยชน์ของเงินกู้ยืมนั้นมากน้อยเพียงใด การกู้ยืมเงินนั้นเป็นสิ่งไม่ดีแต่เราจะทำให้มันเกิดประโยนช์มากที่สุดคือการนำเงินนั้นมาลงทุนแต่คุณต้องแน่ใจว่าได้กำไรแน่นอนจะดีที่สุด แต่มันติดคำว่าการลงทุนมีความเสี่ยงนักลงทุนและนักธุรกิจต่างเข้าใจดีพวกเขาจึงทำการกระจายความเสี่ยง ใครกระจายความเสี่ยงได้ดีโอกาสที่จะขาดทุนก็จะมีน้อยถ้าคุณอยากรู้ผมจะสอนในบทต่อๆไป แต่ตอนนี้เรามาเรียนคร่าวๆก่อนสำหรับวิธีกระจายความเสี่ยง
ยกตัวอย่าง
ตอนนี้คุณได้รับเงินเดือนหรือรายได้ = 20,000 บ.
ค่าใช้จ่ายต่างๆ กิน,ผ่อนรถ,ค่าเช่า    = 16,000 บ.
                                    เหลือ            = 4,000 บ.
กู้ยืมมาเพื่อนำมาลงทุน         = 30,000บ.
น่าจะจ่ายคืนประมาณ 3,000 บ./เดือน ถ้าผ่อนส่งคุณยังสามารถนำเงินที่เหลือมาผ่อนได้หากเดือนนั้นธุรกิจไม่มีกำไร ผมให้มองตรงที่ช่องทางรายรับ หากมันมาหลายช่องทางมันจะสามารถพยุงช่องทางอื่นๆได้ เพื่อที่จะยื้อเวลาให้เราสามารถแก้ไขปรับปรุงตัวธุรกิจที่เกิดปัญหาไม่ใช่ขาดทุนแล้วต้องปิดเพราะไม่มีเงินมาจ่ายค่าต่างๆในธุรกิจ แต่ตอนนี้ผมเชื่อว่าคุณอาจจะมีแค่ 1ช่องทาง ผมเลยยกตัวอย่างที่อาจจะพอเข้าใจ พยายามคำนวณเป็นตัวเลขออกมา ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่มีอยู่และที่เพิ่มเข้ามาใหม่ หากเขียนได้ละเอียดเราจะเห็นว่า รายรับ-รายจ่ายมันเป็นปัญหาหรือไม่ การกู้ยืมมาลงทุนใช่ว่าจะได้กำไรเสมอไปจำใว้ให้ดีนะครับ คุณต้องบริหารจัดการรายรับ-รายจ่ายให้ดีก่อนจะกู้ยืม อย่างที่ผมบอกมันไม่ดีแต่มันเป็นตัวเลือกอีกทางที่จะช่วยคุณสร้างธุรกิจของคุณขึ้นมาได้เร็วขึ้น
     มาดูวิธีการกู้ยืมกัน ทำยังไงถึงจะได้เงินมาลงทุน คือทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อโดยใช้เครดิตคุณเอง แบบนี้ง่ายสุดและเร็วมาก ไปที่ธนาคารหรือบริษัทสินเชื่อ เช่น อิออน เฟิร์สช้อยท์ เคทีซี ฯลฯ ยื่นใบสมัครตามเขื่อนไขของแต่ละบริษัท แค่นี้ก็ได้เงินมาลงทุนแล้ว แต่คุณอาจะได้แค่ 1-2หมื่น/บริษัท หากต้องการมากกว่านี้ต้องสมัครหลายบริษัทแต่คุณต้องคำนวณรายจ่ายให้ดีนะไม่งั้น...งานเข้าแน่นอน
       3.การระดมทุน ผมขอใช้คำนี้แล้วกัน คือ การเอาเงินคนอื่นมาลงทุนแล้วแบ่งกำไรให้เขา วิธีนี้คุณจะไม่เป็นหนี้ใคร ใช้เวลาเท่าไหร่? ได้เงินเท่าไหร่? มันอยู่ที่ความสามารถของคุณ ถ้าคุณมีความสามารถทำให้คนอื่นเชื่อในตัวคุณและเชื่อในธุรกิจคุณ คุณก็จะได้เงินมาลงทุน ถ้าคุณทำได้เงิน ร้อยล้าน พันล้านคุณก็หาได้ แต่จะทำยังไงหละให้เขาเชื่อคุณ ประเด็นสำคัญคือ ตัวคุณและแผนธุรกิจ กระดาษและคำพูดมันไม่พอที่จะทำให้คนอื่นมาร่วมลงทุนกับคุณ ถ้าคุณจะเลือกใช้วิธีนี้คุณต้องตั้งใจอ่านและทำความเข้าใจให้มากที่สุด สิ่งที่คุณต้องใช้ คือ
     3.1.ทักษะการพูด การเจรจา การโน้มน้าว คุณต้องพูดให้เป็น(การสร้างแรงจูงใจ)ผมไม่ได้หมายความว่าให้คุณไปโกหกเขานะ ทำนองว่าชวนสาวไปดูหนัง คุณไม่เคยดูเรื่องนี้มาก่อนเห็นแค่ตัวอย่าง คุณอาจจะชวนเธอว่า "ไปดูหนังกัน มีหนังเข้าใหม่ เรื่องนี้ทุ่มทุนสร้างเป็นร้อยล้านมันต้องเป็นหนังที่ดีแน่ๆ ฉันรู้ว่าเธอชอบความอลังการหนังเรื่องนี้ไม่ทำให้เธอผิดหวังแน่นอน" อาจจะประมาณนี้ที่สำคัญคุณต้องรู้ว่าคนที่คุณเชิญชวนเขาชอบอะไร นี้คือวิธีพูดคุณต้องไปศึกษาหาความรู้ติดตัวใว้
     3.2.ทัศนคติหรือวิธีการคิดของคุณต้องเป็นบวกให้มากๆ เพราะว่ามันจะสร้างความใว้วางใจ ความน่าเชื่อถือ ความมุ่งมั่น คนที่คุยกับคุณเขาจะรู้สึกสบายใจ คุณจะเข้าใจเองเมื่อคุณศึกษาเรียนรู้วิธีคิดบวก
     3.3.ตัวธุรกิจ ข้อนี้สำคัญที่สุดของการหาทุน คุณต้องมีธุรกิจนั้นขึ้นมาจริงๆก่อนเท่านั้น ต่อให้คุณหอบแผนธุรกิจไปเป็นคันรถคุณก็ไม่ได้เงิน หรือจะนั่งคุยนั่งอธิบายเกี่ยวกับธุรกิจเขาอาจจะสนใจแต่เขาไม่ให้เงินคุณหรอก อย่าไปทำให้เสียเวลา เวลาของคุณมีค่ามากกว่าคนพวกนั้น ที่คุณต้องทำคือ คุณต้องผ่านข้อ1 หรือ 2มาก่อน (เก็บเอง หรือ กู้ยืม)ถึงจะได้เงินก้อนนี้ สร้างธุรกิจให้เห็นเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาแล้วค่อยไปคุยกับเพื่อนๆ หรือคนรวยๆ เมื่อเขาเห็นแผนธุรกิจและตัวธุรกิจหรือตัวสินค้าผลกำไรของธุรกิจแค่นี้เขาก็พร้อมที่จะร่วมลงทุนกับคุณแล้ว ยกตัวอย่างให้ดูนะครับ
คุณเคยเดินตามห้างหรือร้านตามข้างถนนแล้วคุณเดินผ่านร้านขายกีตาร์ใช่ไหมแล้วรู้สึกสนใจแต่ก็ยังไม่อยากควักกระเป๋าซื้อ มีอยู่วันนึงไปกินมื้อเย็นร้านติดชายหาดมีนักดนตรีพร้อมกีตาร์ตัวนึงด้วยความไพเราะของเสียงร้องและเสียงกีต้าร์มันทำให้คุณอยากมีกีต้าร์ใว้สักตัวแน่นอน "คุณเข้าใจใช่ไหม" ผมจะบอกคุณว่าจะคุณจะขายกีต้าร์คุณต้องร้องเพลงได้ไพเราะและเล่นกีต้าร์ได้ดีมากๆเขาถึงจะซื้อกับคุณ กลับมาที่เรื่องเราคุณถือเอกสารเกี่ยวกับแผนธุรกิจไปและคุณใช้เทคนิคการพูดต่างๆ แน่นอนครับว่าเขาสนใจแต่เขาไม่ควักกระเป๋าแน่ๆ เพราะอะไรหนะเหรอครับ คนขายกีต้าร์เขาเล่นกีต้าร์ให้ไพเราะเขาถึงได้เงินแต่คุณมากระดาษมันทำอะไรไม่ได้นอกจากพับจรวดหรือพับนก คุณต้องสร้างธุรกิจขึ้นมาก่อนเล็กๆก็ได้ มีการซื้อ-ขายมาแล้วธุรกิจได้เปิดดำเนินการมาแล้วนั้นหมายความว่ากระดาษคุณมีเสียงแล้วทุกคนที่ได้เห็นจะลงทุนกับคุณ
สรุป
       การหาทุนคุณต้องวางแผนให้ดีคำนวณรายรับ-จ่ายให้ดีและเลือกใช้วิธีที่คุณสามารถเริ่มต้นได้เร็วที่สุดสำหรับคุณเพราะเวลามีค่า ถ้าเก็บเองพยายามเก็บให้เร็วที่สุด การเก็บให้เร็วไม่ได้หมายถึงการเก็บทีละมากๆ รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายในช่วงเริ่มต้นให้เหลือน้อยที่สุด อย่างเช่น รวมต้นทุนตอนแรกได้ 30,000 หักค่าเช่าออกเราจะเริ่มโดยไม่ใช้หน้าร้านออก 10,000 ต้นทุนเหลือ 20,000 ตอนแรกนึกอะไรออกให้เขียนลงไปก่อนค่อยมาตรวจดดูอีกรอบว่าจะลดอันไหนได้บ้าง ส่วนการเป็นหนี้เป็นสิ่งไม่ดีหากคุณเลือกที่จะใช้คุณต้องมีความรู้ความสามารถพอสมควรนะและบริหารรายรับ-จ่ายให้ดี ไม่งั้นธุรกิจไปไม่รอดคุณต้องมาตามใช้หนี้เขาอีก สุดท้ายอยากบอกคุณว่า "เงินทุนผมอยากให้มองเป็นปัญหารองสิ่งสำคัญคือตัวธุรกิจ" อย่าไปคิดว่ามีเงินทุนเมื่อไหร่ทำอะไรก็ได้ ผมเห็นมาหลายคนแล้วนั่งกินนอนกินเงินทุนกว่าจะคิดออกว่าทำอะไรดีเงินทุนก็ไม่พอจะทำอะไรแล้ว และกว่าจะหามาใหม่อีกใช้เวลาหลายปี ค่อยๆเริ่มจากเล็กๆด้วยเงินน้อยนิดนี้แหละครับหากมันไปได้สวยค่อยอัดเงินก้อนใหญ่เข้าไปเลย ที่ผมพูดมามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆคุณต้องพยายามให้มากพอโดยเริ่มจากส่วนที่คุณทำได้ก่อนหากรู้ว่ามันยากให้ทำการย่อยรายละเอียดจุดนั้นเพื่อให้มันเล็กลงคุณสามารถเดินต่อไปได้ หากไม่เข้าใจอ่านซ้ำได้นะครับหรือติดต่อสอบถามผมโดยตรงได้ที่อีเมลได้เลย ติดตามบทต่อไปด้วยนะครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

-บทที่ 1

-บทที่ 2

-บทที่ 3

-บทที่ 5 

 หรือ google+