บทที่ 1 อยากมีธุรกิจส่วนตัว
ใครๆก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ติดปัญหาหลายอย่างถูกต้องไหมครับ เช่น
- ไม่มีต้นทุน
- ไม่มีเวลา
- ไม่กล้าทำกลัวเจ๊งกลัวขาดทุน
- คนอื่นทำแล้ว
- ยังไม่เก่งพอ
- ความรู้ยังไม่มากพอ
- คนที่มีเงินเดือนน้อยกว่าคุณเขาสามารถมีธุรกิจส่วนตัวได้ก่อน ถ้าคุณแย้งกลับมาว่า"ฉันมีหนี้มีภาระเยอะฉันเลยไม่มีเงิน"แล้วคุณเคยเห็นคนที่เขาปลดหนี้10ล้าน 20ล้านไหม
- ทุกคนมี 24.ชม/วันเท่ากัน คงเคยได้ยินคำนี้แล้วทำไมเขารวยกว่าใน24ชม.นี้เขาทำอะไร คุณหละทำอะไร?
- ขนาดไหนถึงเรียกว่าเก่ง มันจำเป็นไหมที่คุณต้องสร้างเครื่องบินเป็น จำเป็นไหมว่าคุณต้องวิ่งเร็วที่สุดในโลก จำเป็นไหมที่คุณต้องฉลาดที่สุดในโลก เคยได้ยินคำว่า มือใหม่ ไหมครับ คำๆนี้เหมาะกับใคร?...คนที่ยังไม่เก่งหรือพึ่งเคยทำส่วนมากใช้กับ คนหัดขับรถ คนที่เปิดร้านใหม่ คนที่เริ่มทำธุรกิจ เห็นไหมครับว่าเขาเริ่มจากความไม่เก่ง พวกงูๆปลาๆเปิดร้านเยอะแยะไปอันไหนทำได้เขาก็รับทำอันไหนทำไม่ได้เขาก็ไม่รับ ไม่จำเป็นต้องรอให้เก่งสิ่งทำได้คุณก็ทำสิ่งที่ทำไม่ได้ก็จ้างคนอื่นทำหรือเรียนรู้เพิ่มความสามารถ สิ่งที่ผมจะบอกคือ อย่าประเมินตัวเองต่ำ ความสามารถมันเรียนรู้และพัฒนาได้ตลอดเวลาตามที่คุณต้องการ
- ขาดทุนแน่ๆ คุณรู้ได้ไง แล้วอันไหนได้กำไรแน่ๆ งั้นคุณก็ทำอันที่มันได้กำไรแน่ๆ ถึงจะไม่ขาดทุน(ผมประชด)ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะได้กำไรหรือขาดทุนจนกว่าจะได้ทำมันออกมาสู่ตลาด กำไร-ขาดทุน ผมไม่ขออธิบายในส่วนนี้นะครับเพราะมันยาวและผมได้เขียนใว้อีกบทเพื่อเรียนรู้การสร้างผลกำไรและวิธีจัดการกับธุรกิจ
ผมเชื่อว่าตอนนี้คุณเริ่มอยากทำธุรกิจขึ้นมาแล้วแต่ยังติดอีก 1 ปัญหา คือ ทำอะไรดี ขายอะไรดี ลงทุนต่ำ เอะ...หรือว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาตั้งแต่แรก แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาผมเขียนใว้หลายบทเกี่ยวกับเรื่องนี้หาอ่านดูได้เลย แต่ผมจะอธิบายคร่าวๆให้ฟัง เริ่มจากสิ่งที่คุณทำได้ก่อนหรือของใกล้ตัวที่พอหาได้ไม่ว่าของที่มีอยู่แล้วหรือซื้อมาใหม่ลองเอาไปขายดูส่วนกำไรมากน้อยอยู่คุณสามารถขายได้กี่ชิ้นแต่อย่าพึ่งสนใจมากนักเพราะนี่คือการเริ่มต้นคุณควรเก็บประสบการณ์มากกว่าเพื่อสร้างฐานให้แข็งแรง อย่างที่ผมบอกคุณควรเขียนและวางแผนทำทีละขั้นไปเรื่อยๆ การเริ่มทำธุรกิจผมบอกเลยว่ามันไม่ยาก แค่คุณก้าวผ่านสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นปัญหามาให้ได้ซึ้งมันไม่ยากอะไรเลย ผมจะใบ้วิธีหาเงินลงทุนให้ เก็บเอง,ยืม,กู้,เสนอให้นายทุน,เสนอให้เพื่อน แค่นี้คุณก็ได้เงินมาลงทุน ถ้าคุณไม่เก็บเงินเองผมแนะนำให้สร้างธุรกิจขึ้นมาก่อนแล้วค่อยไปนำเสนอเพื่อเพิ่มทุนไม่งั้นคุณจะไม่ได้เงินทุนจากเขา คุณรู้ว่าต้องวางแผนยังไง ต้องซื้ออะไร เริ่มอะไรก่อน ผมมั่นใจว่าคุณรู้ ลงมือเลย บางคนนะครับผมไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนมากรึเปล่า ไม่รู้ว่าตัวเองจะเริ่มธุรกิจยังไง ผมว่าปัญหานี้เกิดจากความไม่มั่นใจในตัวเองว่าสิ่งที่จะทำต่อไปนี้มันถูกหรือผิดทำให้ไม่กล้าตัดสินใจ และอาจจะเป็นคนขี้อายไม่ค่อยกล้าเวลามีคนเยอะๆ คือทุกคนมีหน้าที่ของแต่ละคนนะครับ เขาไม่สนใจคุณหรอกว่าคุณจะทำอะไร คุณจะทำหรือไม่ทำเขาก็ไม่ได้มาเดือดร้อนกับคุณ ส่วนความขี้อายมันแค่แรกๆครับ2-3วันก็ชินแล้วคุณจะไม่รู้สึกขี้อายอีกผมจะยกตัวอย่างแผนธุรกิจ(ตัวเลขเป็นเพียงสมมุติ)
ตัวอย่าง
จะเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว
- มีสถานที่,ทำเล 7,000บาท
- โต๊ะ,เก้าอี้,ช้อน,เครื่องปรุง 2,000บาท
- ตู้,หม้อ,อุปกรณ์การทำ 4,000บาท
- สูตรก๋วยเตี๋ยว 15,000บาท
- ทุนสำรองอย่างน้อยควรมีสัก 3เดือน โดยคิดจ่ายรายจ่ายประจำ/เดือน ว่าจ่ายอะไรบ้าง เช่น ค่าเช่าที่,ค่าใช้จ่ายในร้าน พวก เส้น ผัก เครื่องปรุง,ค่าบ้าน,ค่างวดรถ ฯลฯ
สรุป
การเริ่มธุรกิจคือการวางแผนก่อนแล้วค่อยๆทำไปเรื่อยๆ ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันจะสำเร็จหรือได้ผลตอบแทนดีแค่ไหนและไม่จำเป็นที่จะต้องไปคิดว่ามันจะขาดทุนหรือเจ๊งมันอยู่ที่ความรู้ความสามารถของคุณว่าจะทำมันได้ดีแค่ไหน ไม่มีใครพร้อมไปซะทุกเรื่องฉะนั้นไม่ต้องรอคำว่าพร้อมถ้าคุณพร้อมคุณคงไม่ต้องการอะไรอีก ทุกคนบนโลกไม่มีใครพร้อมทุกคนอยากได้ โน่น นี่ นั่น ตลอดเวลา อย่าปล่อยเวลาไปเฉยๆจงตื่นและทำงานให้ตัวคุณเองทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นและประสบความสำเร็จในชีวิต การทำธุรกิจส่วนตัวให้สำเร็จไม่ใช่เรื่องง่ายๆคุณต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆค่อยๆทำค่อยสร้างๆ บางคนใช้เวลาเป็นปี สามปี เจ็ดปี จนประสบความสำเร็จรายได้หลักล้าน ถ้าคุณไม่เริ่มวันนี้คุณประสบความสำเร็จเมื่อไหร่ หากคุณคิดว่างานประจำที่ทำอยู่ก็เหนื่อยมากแล้วต้องมาสร้างธุรกิจส่วนตัวอีกเหรอวันหยุดแทนที่จะได้เที่ยวได้ดูหนังได้พักผ่อนต้องมานั่งวางแผนธุรกิจส่วนตัวอีกและต้องไปหาขายของไปหาลูกค้าคงไม่ไหว บ้าตายพอดี ถ้าคุณทำสำเร็จทุกๆวันคือวันหยุดคุณเอาไหมช้าหรือเร็วอยู่ที่คุณ บทนี้สอนให้คุณก้าวข้ามความคิดด้านลบของคุณ คุณจะใช้ความพยายาม ความขี้อาย ความมุ่งมั่น ความบ้าบอ ความสงสัย ความงงๆ ความไม่รู้ไม่ชี้รู้แต่ว่าทำตามบทนี้แหละ หรือความอะไรก็แล้วแต่ ข้ามมันมา ยังมีอะไรดีๆอีกมากมายที่จะเข้ามาในชีวิตของคุณ คุณจะสนุกกับชีวิตมากขึ้น ผมเรียกธุรกิจส่วนตัวและการเป็นคนรวย ว่า การผจญภัย มันมีเรื่องตื่นเต้นให้ทำเยอะ ได้คิดได้ทำได้เห็นอะไรใหม่ตลอดเวลา
ปล.ถ้าอยากรู้ว่าเริ่มวางแผนยังไง เขียนแล้วทำไงต่อ กดติมตามใว้เลยครับจะได้ไม่ขาดตอน เขียนให้อ่านแน่นอนครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
-บทที่ 2
-บทที่ 3
-บทที่ 4
-บทที่ 5

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น