ผมอยากให้ตระหนักถึงการลงมือทำ ธุรกิจที่วางแผนมาดีเยี่ยมไม่สามารถสร้างเงินให้คุณได้ หากคุณไม่ลงมือทำคนที่ลงมือทำทุกวันมีสิทธิ์ที่จะรวยเร็วกว่าคนที่นั่งคิดทั้งวันทั้งคืน
อ้าว..แล้วถ้าไม่คิดจะให้ลงมือทำเลยเหรอ ไม่ใช่ครับ การที่จะทำอะไรสักอย่างเราต้องคิดก่อนเสมอและต้องมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี แต่ในบทความนี้ผมจะบอกวิธีจำกัดความคิดฟังดีๆนะครับ "จำกัด" ไม่ไช่"กำจัด"จำกัดความคิดแล้วลงมือสร้างรายได้ จำกัดความคิด ผมหมายถึง ให้คุณคิดแค่นี้พอ ไม่ต้องคิดเกินไปกว่านี้ ถ้าคิดเกินเราจะเกิดความสับสนในความคิดเนื่องจากข้อเท็จจริงที่เราสร้างขึ้นเองในสมองเพราะเราคิดเยอะเกินไป
ยกตัวอย่าง คุณคิดจะเปิดร้านขายส้มตำ คุณวางแผนโดยการที่จะเอาปลาร้าที่บ้านเกิดที่ต่างจังหวัดมาเป็นจุดขายเพราะที่บ้านเกิดปลาร้าอร่อยหอมและรสชาติอร่อยกว่าแถวนี้เยอะ และคุณคิดว่าขายดีแน่นอนต่อไปหาทำเลเราต้องหาจุดที่มีคุณผ่านเยอะๆ เช่น seven,สี่แยก,จุดลงรถขึ้นรถพนักงาน,หน้าหอพัก สุดท้ายคุณได้เลือกหอพัก เพราะที่อื่นเต็ม ต่อไปเป็นอุปกรณ์เราต้องซื้อตามร้านขายถ้วย,ถัง,กะละมัง,หม้อ,ไห ทีนี้เราได้ครบแล้ว เปิดเลยครับถึงตอนนี้ลงมือได้เลย แต่..มันไม่เป็นอย่างนั้นนะสิ คุณเริ่มคิดต่อถ้าขายไม่ได้หละเราจะมีวิธีแก้ปัญหายัง ค่าบ้านค่ารถก็ต้องผ่อน ร้านแถวๆนั้นก็มีเยอะอยู่3-4เจ้าเขาก็ขายดีอยู่ แล้วเราไปเปิดอีกร้านนึงลูกค้าจะมาซื้อกับเราไหม ถ้าเจ๊งขึ้นมาจะกลับไปทำงานคงลำบาก เพราะกว่าจะได้งาน เศรษฐกิจช่วงนี้ยิ่งไม่ค่อยดีจะทำอะไรเราต้องรอบคอบใว้ก่อนจะได้ไม่เสียใจภายหลัง ถ้ายังไม่เปิดตอนนี้คงไม่เป็นไรรอให้เศรษฐกิจมันดีกว่านี้ก่อนค่อยเปิดยังทัน คิดไปเรื่อย สุดท้ายเลิกคิด ไม่ทำดีกว่าทำงานประจำเหมือนเดิมดีกว่าโอกาสรอดสูงกว่ากันเยอะ คิดดูแล้วมันเสี่ยง คุณเอาอะไรมาวัดว่าอะไรเสี่ยงอะไรไม่เสี่ยง ผมว่าทุกวันนี้ทำงานประจำเสี่ยงถูกไล่ออกมากกว่าไปขายส้มตำอีกนะ ขายส้มตำไม่มีใครมาไล่คุณออกหรอกเชื่อผม ขายไม่ดีก็ย้ายที่ขาย
นี้แหละครับที่ว่าคุณคิดเกิน ส่วนที่เกินคือ คิดในส่วนที่มันอาจจะเกิดหรืออาจจะไม่เกิด อย่างที่คุณคิดว่าถ้าขายไม่ดีหละ แล้วถ้ามันเกิดขายดีแบบเทน้ำเทท่าหละคุณได้คิดวิธีที่จะรองรับลูกค้าที่เข้ามาเยอะๆไหม ไม่ว่ามันจะบวกหรือลบนั้นคือส่วนที่เกิน คุณไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจกับเรื่องพวกนั้น ต่อให้มันเกิดขึ้นมาจริงๆคุณก็ผ่านไปได้แน่นอน ทุกธุรกิจเกิดปัญหาแน่นอน มันจะมาในรูปแบบไหน ปัญหาไหนแค่นั้นเอง ถ้าเราคิดว่ามันจะไม่ดีหรือคิดมันได้สวยอย่างนั้อย่างนี้คิดไปก่อนมันเสียเวลาคุณเอาเวลานั้นไปหาความรู้พัฒนาธุรกิจของคุณให้ดีขึ้นมันจะมีประโยชน์กว่านะ สำหรับวิธีคิดให้คุณคิดแค่
วางแผนเริ่มธุรกิจ
-ตัวธุรกิจที่จะทำ
-หาอุปกรณ์ วัสดุที่จะทำธุรกิจ
-หาทำเล สถานที่ที่จะดำเนินธุรกิจ
-หาทุน
-หาความรู้ของตัวธุรกิจ
เมื่อก่อนผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับทัศนคติของเศรษฐี เขาจะบอกให้คุณเริ่มธุรกิจโดยทำในสิ่งที่ชอบ ค้นหาตัวเองให้เจอ ผมทดสอบดูแล้วมันไม่เสมอไป ทุกวันนี้ผมมีธุรกิจที่ผมไม่ได้ชอบแต่มันทำเงินให้ผมได้เยอะ ธุรกิจของผมไม่ใช่พรสวรรค์ของผม ผมเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด และตอนที่เริ่มผมไม่ได้คิดว่ามันจะทำรายได้ให้ผมมากพอที่จะจ่ายภาระรายเดือนต่างๆของผมภายในระยะเวลา1เดือนผมรู้เลยว่ามันอยู่ได้และตอนนี้ยังทำอยู่และกำลังเริ่มธุรกิจใหม่อีก 2อย่าง
สิ่งที่ผมใช้ในตอนเริ่ม
1.ผมคิดว่าผมหาเงินได้มากกว่านี้
2.ผมต้องทำอะไรสักอย่างเป็นของตัวเองก่อนที่ผมจะไม่มีแรงทำ
3.ทำไมคนอื่นมันรวยจัง
4.ผมไม่เชื่อว่าผมจะทำไม่ได้
ผมคิดแค่นี้จริงๆ แล้วผมก็เริ่มทำธุรกิจ แน่นอนครับว่าผมเจอปัญหามากมายและผมก็ผ่านมันไปได้เมื่อความรู้คุณมากพอคุณจะ สร้างรายได้ ในแบบของคุณ โดยการหาความรู้เพิ่มตาม google youtube มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาว่ากันแต่มันไม่สามารถหยุดคุณได้ คุณต้องเตรียมตัวและตื่นตัว คุณจะได้ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณได้เรียนรู้มา ตอนนี้ผมกำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับการเริ่มธุรกิจ จะเป็นหัวข้อคล้ายๆกับที่ผมได้บอกใว้แต่จะมีหัวข้อเยอะกว่าและรายละเอียดแต่ละหัวข้อ ถ้าผมเขียนเสร็จมีใครต้องการฝากใว้ที่เมลได้เลยนะ ส่วนใครที่ติดตามรอรายละเอียดตามหัวข้อที่ให้ใว้ได้นะครับ ผมจะเขียนเพิ่มในบทความต่อไป หรือจะเมลถามและขอคำปรึกษาได้ทุกเรื่องนะครับ
ปล.ผมจะเขียนให้คุณอ่านจนกว่าคุณจะรวย สิ่งที่ผมอยากได้เป็นการตอบแทนคือ คำขอบคุณและรูปรอยยิ้มของคุณพร้อมกับความสำเร็จในชีวิต
ติดตามบทความผ่านไลน์ได้ที่

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น