บางคนคิดออกได้ง่ายมาก บางคนคิดแถบตายก็คิดไม่ออก ไม่รู้จะใช้วิธีไหนมาจุดประกายความคิดเพื่อที่จะสร้างรายได้หรือเพื่อใช้จ่ายในชีวิต การหาไอเดีย ผมจะแบ่งเป็น 3 ระดับ หรือ 3 แบบ นะครับ คือ ง่าย กลาง ยาก ทั้ง 3แบบหาเงินได้เท่าๆกัน คุณเลือกอันไหนก็ได้
มาเริ่มที่ระดับง่ายก่อนเลย ระดับนี้ผมขอเรียกว่า"เส้นผมบังภูเขา"เรื่องง่ายๆแต่คุณมองไม่เห็นหรือมองข้าม นั้นคือ สิ่งที่คุณทำได้ คุณได้มองข้ามสิ่งนี้ไปรึเปล่า ถ้าคุณมองข้ามผมขอเดาว่าสิ่งที่คุณทำได้คุณคิดว่าทำแล้วไม่ได้เงินหรอก คุณพยายามมองไปที่อื่นมองไปที่ที่มีเงินแต่คุณก็ทำมันไม่ได้ ยาก ไม่ไหว ไม่เอาดีกว่า ทำอะไรดีน๊าา.. หาไอเดียใหม่ดีกว่า ผมว่าคุณทิ้งความคิดพวกนี้ไปซะมันจะทำให้คุณติดอยู่ในเขาวงกต ทีนี้ตั้งใจฟังคำถามของผมดีๆ คุณทำอะไรได้บ้าง? เขียนลงในกระดาษเป็นข้อๆ เช่น เชื่อมเหล็ก ซ่อมมือถือ พูด-อ่านภาษาต่างๆได้ อังกฤษ จีน เยอรมัน อะไรก็ว่าไป ขับเครื่องบินได้ ออกแบบได้ เรียนรู้เร็วความจำดีจำอะไรที่มันเขียนยาวๆได้ อะไรประมาณนี้ ถ้าคุณเขียนได้เป็น 10-20 ข้อ แสดงว่าคุณเป็นคนที่มีความสามารถค่อนข้างสูงเลยทีเดียดียว ผมยอมรับเลยว่าคุณเป็นคนเก่งคนนึง เพียงแค่คุณขาดความรู้เรื่องการการตลาดและทัศนคติของคนรวยคุณต้องไปเพิ่มความรู้พวกนี้ให้เยอะๆ เมื่อมันมากพอเงินจะมาเอง "ไม่เชื่อหรอก แค่เพิ่มความรู้แล้วไม่ทำอะไรไม่มีทางที่จะได้เงิน"คุณพูดถูกและผมก็ไม่ได้บอกให้คุณอยู่เฉยๆ เมื่อคุณไปเรียนรู้เรื่องที่ผมบอกทั้ง 3 เรื่องคุณจะทำของคุณเอง ถ้าคุณยังไม่เชื่อหรือสงสัยอะไรอีก ผมแนะนำให้ลองไปหาอ่านตาม google,youtube เกี่ยวกับ ทัศนคติคนรวย ดูสักนิดนึงแค่นิดๆพอแล้วมาเปรียบเทียบดูว่าเมื่อก่อนคุณได้ทำแบบที่คนรวยเขาทำกันรึเปล่า (รีบไปดูซะแล้วค่อยมาอ่านต่อ) ถ้าคุณดูมาแล้วและเริ่มที่จะเชื่อในสิ่งที่ผมบอกให้คุณอ่านจนจบแต่ถ้าไม่เชื่อก็จบการอ่านเพียงเท่านี้ เพราะต่อไปนี้คือสิ่งที่มันทำยากมากๆ ยากจนคุณต้องถอยและคิดว่ามันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เรื่องขายฝันมั้งนั้น มาเข้าเรื่องต่อครับ แต่ถ้าคุณเขียนได้น้อยข้อ "นี้แหละปัญหา"คุณว่าการดำรงชีวิตของคนเราวันๆทำอะไรบ้าง ตัดคำว่าทำงานออก นอน ล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ กินข้าว ทำกับข้าว ซื้อของ ทอนเงิน จ่ายเงิน ใส่เสื้อผ้า ใส่รองเท้า-ถุงเท้า แล้วถ้าคุณต้องการหาเงินคุณคิดว่าคุณต้องทำอะไรเป็นบ้าง "นั่นนะสิ...ต้องรู้อะไรบ้าง"คำตอบคือ เยอะมากๆครับ ถ้าคุณมีความรู้แค่นี้ความสามารถแค่นี้ คุณเลิกหาไอเดียไปได้เลย เสียเวลา คุณไม่มีทางคิดออก ทำไมน่ะเหรอ ถ้าตอบง่ายๆคือ ความรู้ความสามารถไม่พอ แต่ถ้าตอบแบบให้คุณคิดเองเข้าใจเองคือ ทำไม 120+156=276 คุณรู้ใช่ไหมว่ามันคือคำตอบนี้คุณรู้ได้ไง ไม่ต้องตอบผมก็ได้ แล้วถ้า 56*23=? , 56/7=? ผมมั่นใจว่าคุณรู้คำตอบไม่ว่าคุณจะคิดเองหรือใช้เครื่องคิดเลขหรือถามคุณอื่น คุณลองเอาโจทน์พวกนี้ไปถามเด็กอนุบาลดูนะว่าเขาจะตอบได้ไหม อาจจะแน่นอนครับว่าเด็กอนุบาลตอบไม่ได้ แต่อาจมีบางคนตอบได้เพราะเขาถามพ่อหรือแม่ คุณพอจะเข้าใจรึยังว่าทำไมถึงรู้คำตอบ ถ้ายังไม่เข้าใจผมจะอธิบายให้ฟัง คุณรู้วิธีคำนวณ คุณรู้จักเครื่องมือที่ช่วยคุณได้ คุณจึงรู้คำตอบส่วนเด็กอนุบาลเขายังเรียนไม่ถึงเขาไม่รู้จักเครื่องมือคิดให้ตายก็คิดไม่ออกจนกว่าจะได้เรียน เข้าใจยังครับ คุณเคยเห็นสูตรนี้ไหม ความรู้(+,-,*,/)ความสามารถ=เงิน เห็นแล้วอย่าพึ่งคิดมากครับและไม่ต้องคิดว่ามันยาก จริงๆแล้วมันไม่ยากและไม่ง่ายอยู่ที่คุณรู้หรือไม่รู้ความรู้ของคุณจะเป็นตัวกำหนดว่าง่ายหรือยาก มันไม่ต่างกันกับ 120+156=? คุณรู้ได้ไงแล้วทำไมเด็กอนุบาลไม่รู้ จบระดับง่ายใว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ
สรุป ระดับง่าย ให้คุณหาไอเดียจากสิ่งที่คุณทำได้เขียนมันออกมา แล้วดูว่าอันไหนสามารถสร้างรายได้ได้เยอะสุดโดยคิดเองหรือถามคนอื่น หากคุณเขียนได้น้อยคุณต้องเพิ่มความรู้ความสามารถขึ้นอีก เมื่อคุณเขียนได้เยอะแล้วคุณจะคิดออกเองหรือทำมันเอง ผมจะอธิบายสูตรที่ว่า ความรู้(+,-,*,/)ความสามารถ=เงิน
ความรู้ คือ สิ่งที่คุณรู้นั้นแหละ ทุกๆเรื่อง
(+,-,*,/) คือ ความรู้การตลาด,การเงิน,ทัศนคติคนรวย ได้ค่ามากสุดคือวิธีคูณ คุณจะรู้เองเมื่อมากพอ
ความสามารถ คือ สิ่งที่คุณทำได้ ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์หรือได้จากการเรียนรู้ ถือว่าเป็นความสามารถทั้งหมด คุณสามารถที่จะพัฒนาให้เก่งขึ้นได้
สูตรนี้ถ้าคุณเพิ่มส่วนใดส่วนนึง และรู้จักวิธีคูณ รายได้คุณจะยิ่งทวีคูณ ถ้าไม่เข้าใจกลับไปอ่านอีกรอบ เพราะผมเขียนเพื่อให้คุณคิดเองเข้าใจเองมันจะง่ายสำหรับคุณว่าต้องทำอะไรต่อ
ระดับกลาง วิธีหาไอเดียของระดับนี้ถือว่ายากกว่าแน่นอน คุณต้องใช้ความความอดทนและความพยายามค่อนข้างสูงเลยทีเดียวแต่ผลตอบแทนถือว่าคุ้มมากๆ ไม่เกี่ยวเลยว่าคุณจะทำเป็นหรือทำไม่เป็นให้คุณลืมจุดนี้ไปก่อนครับ ผมให้คุณไปหารายได้ของแต่ละอาชีพ ณ ปัจจุบัน เขาทำเงินจากอะไรกันบ้างหาจนกว่าคุณจะเจอรายได้ที่คุณต้องการมากที่สุด เมื่อได้มาแล้วคุณศึกษาเรียนรู้และลงมือทำซะไม่ว่าจะทำเป็นหรือทำไม่เป็นแต่ตอนนี้คือต้องทำให้เป็น แต่มันมีเหตุผลนึงที่ขัดใจอยู่คือ"ฉันไม่ชอบอาชีพนี้"ผมถามกลับว่า"แล้วอาชีพที่ทำอยู่ตอนนี้คุณชอบมันไหม" ถ้าตอบว่า ไม่ชอบ คุณไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผลนี้อีก แต่ถ้าตอบว่า ชอบ ผมจะถามกลับว่า แล้วอาชีพที่ทำอยู่ตอนนี้คุณพอใจกับรายได้ของมันไหม ผมจะบอกว่า มนุษย์ทำได้ทุกอย่างอยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่ทำ ผมมีวิธีทดสอบ คุณลองไปหยิบไม้กวาดแล้วลองกวาดบ้านดูหรือไปล้างจานสักใบ ทำตอนนี้เลย! คุณเลือกเอานะว่าจะทำหรือไม่ทำ ถ้าคุณคิดว่ามันง่ายไปใครก็ทำได้ งั้นลองไปสร้างเครื่องบินสักลำ มันเป็นทฤษฎีเดียวกัน อยู่ที่ว่าคุณจะทำหรือไม่ทำ
สรุป ระดับกลาง หาไอเดียจากอาชีพปัจจุบันดูว่าเขาทำอะไรกันอยู่เพื่อสร้างรายได้ คุณเลือกได้เลยว่าต้องการเงินเท่าไหร่ ไม่ว่าคุณจะทำเป็นหรือทำไม่เป็น เมื่อคุณเลือกแล้วคุณต้องทำให้เป็น ชอบหรือไม่ ไม่เกี่ยวถ้าคุณเลือกที่จะทำยากง่ายไม่ใช่ปัญหาอย่าเอามารบกวนการหาเงินของคุณ คุณเข้าใจคำว่ามุ่งหน้าอย่างเดียวไหม
ระดับยาก ระดับนี้มันไม่สามารถที่จะทำได้กันทุกคน อย่างที่ผมบอกใว้ในตอนแรกบางคนก็ได้โดยง่ายบางคนคิดแทบตาย ผมเรียกว่า พรสวรรค์ด้านความคิด ถ้าอ่านระดับนี้แล้วงงๆ มันคืออะไรก็ไม่ต้องสนใจในระดับนี้ก็ได้ครับ เขาคิดในรูปแบบที่ซับซ้อนมองผิวเผินเหมือนไม่คิดอยู่ดีๆก็ทำออกมา คิดแบบคนอื่นเรียกว่าบ้า แต่จริงๆแล้วเขาคิดคำนวณมาเยอะ การสังเกตุ การวิเคราะห์ เหตุและผล และอื่นๆ รวมเข้าด้วยกันในรูปแบบความคิดของเขาเอง สุดท้ายออกมาเป็นไอเดียหรือผลงานใหม่ๆ ผมไม่สามารถที่จะเขียนหรืออธิบายในส่วนของระดับนี้ได้มากนักเพราะมันไร้ข้อจำกัด มันไม่สามารถบอกได้ว่าต้องทำแบบไหน ต้องคิดแบบไหน แต่ถ้าคุณจะลองหาไอเดียด้วยระดับนี้ ผมก็พอมีวิธีแนะนำคุณ
1.คุณต้องฝึกการสังเกตุ จดจำ เช่น วันนี้คุณจำอะไรได้บ้าง เห็นอะไรแปลกๆรึเปล่า อย่างตัวเลขกลับหัว ตัวหนังสือไม่ครบ เสาหัก ฯลฯ
2.เป็นคนขี้สงสัย เช่น ทำไมมนุษย์ต้องหายใจ ทำไมพืชส่วนมากต้องปลูกบนดิน ทำไมต้องเสียใจเวลาอกหัก ฯลฯ
3.พยายามหาคำตอบของข้อ 1 และ 2 ไอเดียมันจะเกิดขึ้นมาเอง คิดช้าๆไม่ต้องรีบ เดี๊ยวมันจะเป็นเส้นผมบังภูเขา
สรุป ระดับนี้ถือว่าเป็นพรสวรรค์ของเขาเลยก็ว่าได้ แต่คุณจะลองทำดูก็ได้ คุณอาจจะมีพรสวรรค์โดยที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองก็มีนี้ว้าา...มันทำให้คนคิดได้ไอเดียที่ต่างและเป็นไอเดียที่ดีมากๆ จุดเด่นของมันคือ คนอื่นเลียนแบบยากแต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเลียนแบบคุณไม่ได้ อย่างที่ผมบอกมนุษย์ทำได้ทุกอย่าง แต่กว่าเขาจะเลียนแบบคุณได้คุณก็รวยไปแล้วซึ่งคุณไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ เมื่อมีคนเลียนแบบคุณก็สามารถคิดไอเดียได้ใหม่เสมอ
มาสรุปบทความนี้กันดีกว่า ทั้ง 3 ระดับนี้ คุณเลือกเอาเองว่าจะหาไอเดียด้วยวิธีไหนหรือทำทั้งหมดเลยก็ได้ ไม่ว่าคุณจะทำอันไหนรายได้ก็ไม่ได้ต่างกัน มันต่างแค่วิธีการหาไอเดียจากสิ่งที่ทำได้มันก็ง่ายไม่ต้องเรียนรู้อะไรมากนักแค่เพิ่มการตลาด,การเงินกับทัศนคติคนรวยคุณก็สร้างรายได้ได้แล้ว หาไอเดียจากปัจจุบันหรือเรียกอีกอย่างว่าทันโลกมันก็จะยากขึ้นมาอีกคือคุณอาจต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมดซึ่งมันต้องใช้เวลา,ใช้ความพยายาม,ความอดทน สุดท้ายเป็นวิธีที่ทำได้บางคนเท่านั้นถึงจะคิดออกของเขาเอง บทความนี้และบล็อคของผม ผมจะเน้นไปทางความคิด การหาความรู้เพิ่มตลอดเวลาและที่ขาดไม่ได้คือการลงมือทำ ผมขอถามคุณอะไรสักอย่างนะ ว่า..คุณจำเป็นไหมที่จะต้องสร้างเครื่องบินเพื่อที่จะรวย ถ้าให้ผมตอบ ผมว่าไม่จำเป็น คนทำไม้กวาดขายได้กำไร 4 แสน เขาขายในอินเตอร์เน็ตหรือเขาขายส่งครับผมจำไม่ได้ เรื่องนี้มีจริงนะ ถ้าขายตามตลาดหรือเดินขายคงไม่ได้ขนาดนี้ มีหนังสือเล่มนึงบอกผมว่า การคิดค้นสินค้าเป็นแค่ครึ่งทางอีกครึ่งทางเป็นการระจายสินค้า ต่อให้สินค้านั้นมีประโยชน์มากแค่ไหนแต่มีคนรู้จักแค่คนเดียว คุณก็ไม่สามารถที่จะรวยได้ หากคุณใช้ระดับยากในการหาไอเดียคุณต้องศรัทธาในตัวเองนะครับอย่าให้คนอื่นมาทำลายไอเดียของคุณ คุณอาจทำมันสำเร็จก็ได้ใครจะรู้ คุณก็ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้ คนอื่นก็ไม่รู้ ผมอยากให้คุณลองทำมันดู
เพิ่มเพื่อนเพื่อติดตามบทความได้รวดเร็ว

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น