ทำงานอะไรดี - 2 มือ สร้างรายได้

เรียนรู้การสร้างรายได้ ในแบบของคุณ ค้นหาตัวตนและเปิดมันออกมา การหาเงินไม่ใช่การหาสมัครงาน ถ้าคุณหางานคุณจะได้งานถ้าคุณหาเงินคุณจะได้เงิน ผมจะเขียนจนกว่าคุณจะรวย ติดตามอ่านทุกอาทิตย์นะครับ

2MUO.COM

วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2560

ทำงานอะไรดี

       บอกเลยว่า ดีทุกอาชีพครับ ผมไม่กล่าวถึง
 ทำแบบสุจริต หรือ ทำแบบทุจริต แล้วแต่คุณจะยึดมั่นในสิ่งไหน ขายของโกงตาชั่ง หลอกขายของให้ลูกค้า ฯลฯ ส่วนคำถามที่ว่า ทำงานอะไรดี? คำตอบคือ ดีทุกงาน ที่คุณถามแบบนี้  คุณต้องการอะไรกันแน่ระหว่างงานหรือเงิน 
      ขออนุญาตสมมุตินะครับ
คุณถามว่า "ทำงานอะไรดี ?"
ถ้ามีคนบอกคุณว่า  "ขายของเหมือนพี่สิได้กำไร 5-6 หมื่น/ด" คุณจะบอกเขาว่า "โอย..ไม่ไหวมั้งพี่ หนูไม่ชอบขายของขี้เกรียจคุยกับคน เศรษกิจก็ไม่ดีขืนลงทุนไปมีแต่จะขาดทุนเงินยิ่งหายากๆอยู่" 
เขาถามต่อ "งั้นลองเขียนเกมส์มือถือแบบเพื่อนพี่ไหมรายได้เดือนหนึ่งหลายแสนเลยนะ 
คุณตอบว่า "นี้ขนาดหนูศึกษา photoshop ยังว่ายากเลยกว่าจะเป็น อ่านแล้วอ่านอีก พี่จะให้หนูไปเขียนโปรแกรมเลยเหรอ กว่าหนูจะเป็นถ้าไม่แก่ตายก่อนอาจจะสัก 1 เกมส์"
พี่เขาพูดว่า "E ba 555 มันก็ไม่ยากขนาดนั้น สมัยนี้มีโปรแกรมสำเร็จรูป เรียนนิดๆหน่อยๆก็ทำเกมส์ได้แล้ว
คุณตอบว่า"หนูว่า..ไม่ใช่แนวอะ มีอย่างอื่นไหม"
     ถ้าเป็นแบบนี้คงคุยกันยาวนานมาก ไม่ว่าจะมีคนตอบคุณยังไงคุณจะแย้งเขาอยู่เสมอ คำตอบมีเพียง 1 ใน 100 หรือ 1 ใน 1,000 เพราะข้อจำกัดหลายอย่างที่คุณตั้งขึ้นมา ในเรื่องของ 
      1.ความคิด เป็นตัวกำหนดที่สำคัญที่สุด หากคำตอบที่ได้ไม่ตรงกับความคิดมันจะถูกปฏิเสธทันที             2.เวลา ถ้าคำนวณดูแล้วมันนานเกิน คงไม่ทันค่าใช้จ่าย คุณก็ไม่ทำ
      3.เงิน เป็นในส่วนของการลงทุนที่ต้องใช้เงิน คุณอาจจะมีเงินน้อย หรือมีเงินพอสมควรแต่ไม่อยากเสี่ยง
      4.แรงกาย อาจมีโรคประจำตัวหรือโรคที่เกิดจากความคิด แพ้อากาศ กลัวความสูง ขี้อาย พูดไม่เก่ง ฯลฯ
      5.ความสามารถ ประเมินตัวเองต่ำ ยากเกิน ทำไม่ได้หรอก ไม่มีทาง ไม่ถนัด ไม่ชอบแนว
ถ้าเอาเรื่องพวกนี้มาตั้งเป็นข้อจำกัดหรือเหตุผลของการแย้งมันจะไม่มีอาชีพไหนดีสำหรับคุณเลย เดี๊ยวผมจะลองตอบคุณดูละกันนะ ว่าอาชีพไหนดี
     1.ขายหมูปิ่งหรือไก่ทอด+ข้าวเหนียว ทำเลแถวโรงงาน สี่แยก จุดขึ้นลงรถพนักงาน เพราะเป็นพื้นที่เร่งด่วน ซื้อปุ๊บกินปั๊บ รายได้ดีกว่าขายเสื้อผ้า กางเกงเยอะ กำไร 30,000ขึ้นไปแน่นอน อยู่ที่ทำเลคุณด้วยนะถ้าไม่มีคู่แข่งคุณทำให้รสชาติพอกินได้ก็พอ (จากเรื่องจริง ชีวิตจริงไม่ใช้ตัวแสดงแทน) อาชีพค้าขายมีหลายปัจจัยนะครับ คุณต้องศึกษาใว้ด้วย ลองหาอ่านดูในบล็อคของผมเอานะ ถ้าไม่มีแสดงว่ายังไม่ได้ลง ลงแน่นอนครับแวะดูอาทิตย์ละครั้งนะ
     2.ขายของออนไลน์ ทำที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้แค่คุณมีโทรศัพท์กับอินเตอร์เน็ต ไม่จำเป็นต้องพกสินค้าไปด้วย แต่ใช้ความรู้เยอะพอสมควรไม่งั้นคุณจะขายไม่ได้เลย หากคุณเคยทำมาแล้วและขายไม่ได้แสดงว่าความรู้ในเรื่องนี้คุณยังมีไม่มากพอ รายได้อยู่ที่ หลายหมื่นหลายแสนจนไปถึงหลายล้าน บอกเป็นตัวเลขไม่ได้ ถ้ามีคนบอกคุณว่า "ฉันก็เคยขายนะมันได้แค่ 5-6 พัน/ด เอง อย่ามาหลอกกัน" ในโลกออนไลน์มีคนตั้ง 1,000 ล้าน คิดจาก 1 ส่วน 7 ของคนทั้งโลก (ตัวเลขโดยประมาณ) แต่คุณขายได้แค่นี้ ผมเรียกว่าแค่นี้แล้วกัน แค่ขายให้ได้ 0.001% ก็ 10,000คน กำไร คนละ 10บาท =100,000 บาท สมมุติตัวเลขต่ำแล้วนะ ส่วนสินค้ากับวิธีการคุณศึกษาเพิ่มเอง ถ้าผมเขียนตอนนี้มันจะนอกเรื่องเกินไป 
     ทั้ง 2 ข้อนี้คุณมีเหตุผลใดมาแย้งที่จะไม่ทำไหมครับ ผมก็ไม่น่าถามเลย มีอยู่แล้วใช่ป่าว เพราะข้อจำกัดที่คุณตั้งเอาใว้ มีเพียง 1 คำตอบที่คุณยอมรับมันเป็นคำตอบที่ตรงกับข้อจำกัดของคุณพอดี
    สมมุติว่าคุณต้องการเงินเดือน 30,000 ไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร ทำที่บ้านได้ หรือใกล้บ้าน มีคนบอกคนว่า
"ทำเขียงหมูไหม ลงทุนสักหมื่นก่อน พี่เห็นเขาได้กำไรกัน 30,000-50,000 เลยนะ" คุณคิดต่อว่า "อืม...ก็ได้นะ เลาะหน่อยไม่เป็นไร ขายหน้าบ้านก็ได้" ถ้ามันตรงคุณถึงจะทำ ถ้าเขาเสนอรายได้ 1 แสน คุณปฏิเสธแน่นอน เพราะคุณตั้งใว้ 30,000 ถ้า 1แสน คุณจะคิดว่าคงลงทุนสูง ยาก นาน ไม่ทำไม่เอา มันอยู่ที่ข้อจำกัดคุณทั้งหมด เหมือนคุณวาดรูปแบบคร่าวๆใว้เหลือเพียงว่าอันที่วาดมันคืออะไร คุณจะถามคำว่า ทำงานอะไรดีไปเรื่อยๆ จนกว่ามันตรงกันกับที่คุณวาดคร่าวๆใว้ ส่วนเป็นงานที่ดีหรือไม่ดีนั้น ผมตอบไม่ได้มันอยู่ที่ดุลพินิจของคุณ โจทน์ของเราคือ ทำงานอะไรดี คำถามนี้ตอบคุณได้ทุกคนแต่มันจะตรงกับข้อจำกัดคุณไหม อันนี้ผมบอกเลยว่ายากอาจจะหลายปีหรือไม่ได้คำตอบเลย หรือคุณอาจจะโชคดีถาม 2-3 คนก็ได้แล้ว เอาล่ะ...ผมจะสอนวิธีง่ายๆตรงๆให้คุณ ทุกอย่างบนโลกเกิดขึ้นด้วยเหตุและผล เกิดเหตุจะต้องมีผล เกิดผลจะต้องมีเหตุ ผมขอใช้คำว่า ข้อจำกัด แล้วกันนะ ข้อจำกัดที่คุณตั้งขึ้นมันมาจากไหน มันมาจากความรู้ (ความรู้ในที่นี้ไม่ไช่ ม.3 , ม.6 , ป.ตรี , ป.โท ผมหมายถึงคุณรู้และเข้าใจอะไรบ้างในโลกนี้) ความสามารถและปัญหาชีวิตหรือความอยากของคุณในตอนนั้น ระหว่างที่คุณคิดว่าจะทำงานอะไรดี สมองได้ร่างรูปแบบคร่าวๆขึ้นมาให้คุณ สิ่งที่คุณทำต่อไปคือหางานที่จะมา mash เข้ากันลงตัว หากมีข้อใดที่ไม่ mash คุณจะปฏิเสธทันที เรื่องนี้คงต้องเจาะแบบลงลึกถึงจะเข้าใจ
       มาดูที่รูปแบบคร่าวๆที่สมองสร้างขึ้นโดยประมวลผลจากความรู้ความสามารถและปัญหาชีวิตหรือความอยากของคุณ ผมจะอธิบายการประมวลผลของสมองว่ามันทำไมถึงออกมาเป็นรูปแบบคร่าวๆหรือข้อจำกัด ดังนี้
      1.ความรู้ ในตอนนี้คุณรู้อะไรบ้าง มีอะไรบ้างบนโลก ลักษณะยังไงบ้าง มีคนบนโลกเท่าไหร่ ชิปรุ่นใหม่สุดความเร็วเท่าไหร่ ค่ารถโดยสารเท่าไหร่ จากที่นี้ไปจีนกี่กิโลเมตร เขาผลิตกระจกยังไง คนชอบเที่ยวที่ไหน ตลาดหุ้นเป็นไงบ้าง ค่าแรงขั้นต่ำเท่าไหร่ อะไรที่เรียกว่าทำเลดี 1+1=? เงินเดือนจ้าราชการเท่าไหร่ เงินเดือนช่างเท่าไหร่ ทุกอย่างที่คุณรู้ผมเรียว่าความรู้ของคุณ
     2.ความสามารถ คุณทำอะไรเป็นบ้าง ขับรถ ขับมอไซ ทำอาหารอร่อย เชื่อมเหล็ก ตัดผม ซ่อมคอม ซ่อมโทรศัพท์ เดาเก่ง(ย้ำนะครับ-เดาเก่ง พวกนักวิเคราะห์)ซ่อมรถยนต์ ขับเครื่องบิน วิ่งเร็ว ดำน้ำเก่ง(ถ้า3วันโผล่ ผมเรียกว่าจมน้ำนะครับ) ปีนต้นไม้เก่ง อะไรก็ที่คุณทำได้จะเหมือนคนอื่นจะเก่งกว่าหรืออ่อนกว่าผมเรียกว่า ความสามารถของคุณ
     3.ปัญหาชีวิต คำนี้ไม่ตายตัว แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน เช่น 
      ฮือๆ....ชีวิตฉันทำแต่งานทุกวัน บางคน ไม่คิดเลยมีงานทำทุกวันดีจะตายคิดแต่เรื่องกินกับเที่ยว
      ทำไมฉันต้องขับรถไกลๆทุกวัน บางคน สบายใจไม่ต้องนั่งอยู่บริษัท 
     มันแล้วแต่ครับว่าคุณจะมองอันไหนเป็นปัญหา และปัญหานี้แหละมันจะถูกนำมาประมวลผลร่วม ถ้าอะไรๆก็คิดเป็นปัญหาหมดเหตุผลที่คุณจะแย้งมันยิ่งมีเยอะ พอมันเยอะตัวเลือกมันก็จะน้อยลงหรืออาจจะไม่เหลืออะไรเลย คุณจะไม่ได้คำตอบในโลกนี้ ผมแนะนำว่า สิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำได้นั้นไม่ใช่ปัญหา อย่าไปคิดว่ามันยาก มันไม่ดี ไม่เอา ไม่ชอบ น่าเบื่อ เฉยๆใว้ไม่ต้องคิด อย่างขับรถไกลน่าเบื่อจังถ้าคุณเปลี่่่ยนจากน่าเบื่อจังเป็นฟังเพลงยาวๆดีกว่า("ฟังเพลงยิ่งเบื่อ") ผมแค่ยกตัวอย่างคุณหาอะไรทำแทนก็ได้ เห็นไหมว่า..ถึงความน่าเบื่อจะอยู่กับคุณตลอดทางหากคุณไม่สนใจสักพักมันก็หายไป
     4.ความอยาก หรือสิ่งที่คุณอยากได้ อยากได้บ้านหลังใหญ่ๆ อยากได้รถใหม่ อยากอยู่บ้านทุกวัน อยากไปเที่ยวต่างประเทศ อยากมีเงินเยอะๆ อยากสวยอยากหล่อ อยากินอาหารดีๆ อยากให้พ่อแม่สบาย อยากมีสนามกอร์ฟ อยากได้โน่น นี่ นั่น 
     ทั้งหมดนี้จะถูกประมวลผลออกมาว่าคุณจะทำงานอะไรดี ถ้ามีคนตอบแล้วไม่ mash คุณปฏิเสธทันที ทุกข้อมีความสำคัญเท่ากัน ทั้ง 4 มันจะ mash กันลงตัวเรียบร้อย ถูกหรือผิดคุณไม่รู้ 
    ยกตัวอย่างรูปแบบคร่าวที่สมองประมวลผลออกมา (แค่เป้าหลักๆนะครับ)
      งานอะไรดีล่ะ คราวนี้...? ถ้ามันออกมาแบบนี้ คุณว่าจะมีใครตอบโจทน์ตัวนี้ได้ไหม นี้ยังไม่รวมส่วนย่อยๆนะ เดี๊ยวจะเข้าใจยาก ผมจะอธิบายรูปให้ฟัง           ทำไมเขามีรายได้ 6 หมื่น เยอะกว่าเรามันต้องมีสักงานที่เราทำได้บ้างสิ เราขับรถได้แต่ไม่อยากทำอะไรยุ่งยากหรือทำนานๆ สักวันเราจะซื้อบ้านสวยๆสักหลังให้ได้ โอ้...พระเจ้า ได้โปรดประทานงานชิ้นโบว์แดงให้ข้าหน่อย ข้าจะทำมันอย่างดี ผมไม่ได้บอกว่าสิ่งที่ฝันใว้เป็นไปไม่ได้ แต่ผมจะบอกว่ารูปแบบมันแย้งกัน คนขี้เกรียจจะมีเงินซื้อบ้าน 20 ล้านได้ไง คนรายได้ 60,000 ถึงคุณจะรู้ว่าเขาทำอาชีพอะไรแต่คุณไม่รู้ว่า...เขารู้อะไรบ้างบนโลกนี้ มันไม่สมเหตุสมผล มันไม่สามารถเกิดขึ้นด้วยเหตุแค่นี้ เหตุต้องมากกว่านี้ถึงจะได้ผลลัพธ์ตามที่วาดใว้ คุณไม่สนหรอกว่ามันถูกหรือผิดคุณสนแค่รูปแบบหรือข้อจำกัดของคุณ มันต้องมีงานอะไรสักอย่างที่ตรงกัน "ฉันต้องหาให้เจอ" คุณคิดแค่นี้
     ผมจะอธิบายเรื่องของความไม่สมเหตุสมผลและอะไรที่มันแย้งกัน(ดูภาพประกอบด้วยนะครับ)
     ยกตัวอย่าง 2อันแรกเลยความรู้ +ความสามารถ ตอนนี้คุณเงินเดือนเท่าไหร่ครับ สมมุติ 15,000 ฿ คุณวาดรูปแบบรายได้ที่ 60,000 ฿ ชื่อเรื่องของเราคือ ทำงานอะไรดี เมื่อคุณถามคำถามนี้จะมีภาพ 60,000 ลอยขึ้นมาด้วย คุณคิดยังไงคุณก็คิดไม่ออก ล้าน% เพราะอะไรรู้ไหม? ....เพราะว่า... ณ เวลานี้ ตอนนี้ ความรู้+ความสามารถ=15,000 ถ้าอยากได้ 60,000 ต้อง เพิ่ม ความรู้ กับความสามารถ โดยใช้เงินเป็นตัวตั้ง 15,000*4=60,000 เท่ากับว่าคุณต้องเพิ่มความรู้ความสามารถขึ้น 4 เท่า
คุณถึงจะคิดออก แบบนี้ค่อยสมเหตุสมผล อยู่ดีๆคุณนึกอยากหาอะไรทำที่มันได้เงินเยอะ คุณคิดไม่ออกหรอก พอคิดไม่ออกก็ไปถามคนโน้นคนนี้ มีคนเดียวที่เขาจะตอบคุณได้ คือ คนที่มีเงินเดือน 60,000 หรือราวๆนี้ ถ้าคุณจะก็อบก็ต้องก็อบให้เหมือนทุกอย่างความรู้ ความคิด ความสามารถ นิสัย ทุกอย่าง อันนี้ผมว่ายากเพราะคนเราไม่เหมือนกันข้อจำกัดหรือรูปแบบที่สมองวาดขึ้นย่อมต่างกันคุณอาจจะยอมรับไม่ได้บางเรื่องแล้วคุณก็ล้มเลิกเพราะเจอทางตัน วิธีที่ดีที่สุด คือ เพิ่มความรู้ด้วยตัวคุณเอง คุณไม่ต้องไปเสียเวลาถามตัวเองหรือถามคนอื่นว่า ทำงานอะไรดี? มันเสียเวลาเป็นเดือนๆ เป็นปีๆ แบบไม่ได้อะไร คุณเอาเวลาพวกนั้นไปทุ่มเทกับการหาความรู้เพิ่มจะดีกว่า ถ้าเงินหรือรายได้คุณเพิ่มแสดงว่าความรู้ความสามารถคุณได้ถูกเพิ่มขึ้นเช่นกัน 
     อะไรที่มันแย้งกัน คุณคงเดาออก ความขี้เกียจ เบื่อง่าย นั้นแหละครับ มันไปแย้งกับกลุ่มอื่นๆคุณว่าทุกวันนี้คุณขยันไหม? ขออณุญาติตอบแทนนะครับ "ขยันสิ" นี้ขนาดขยัน..ตอนนี้เงินเดือน 15,000฿ ถ้าขี้เกรียจคงได้ 60,000 เห็นไหมครับว่ามันแย้ง มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าอยากได้ 60,000 ต้องขยันมากกว่านี้ 4เท่า และลบคำว่า ขี้เกียจ น่าเบื่อ ออกไปใส่ ขยัน อดทน เข้าไปแทน

     ส่วนบ้าน 20 ล้านเหมือนตัวล่อใจให้คุณพยายามคิดที่จะหางานที่ได้เงินเดือนหรือรายได้เยอะๆ หรือจะเรียกว่า แรงจูงใจ แรงผลักดัน อะไรก็แล้วแต่ ตรงนี้ไม่เสียหาย
     สรุป 
     คงพอเข้าใจนะครับว่า ทำงานอะไรดี คำตอบเดิมครับ ดีทุกอาชีพดีทุกงาน ถึงมีคนชี้เป้าว่าอาชีพนี้ดี อาชีพนั้นดีกว่า คุณก็ไม่เอาอยู่ดีเพราะว่าข้อจำกัดของคุณเอง คุณไม่ต้องกังวนกับเรื่องนั้้นก็ได้ไม่ต้องแก้ไขมันก็ได้ คุณไปทุ่มเทกับการหาความรู้ความสามารถดีกว่า เมื่อความรู้ความสามารถเพิ่มสมองจะวาดข้อจำกัดให้คุณใหม่โดยอัตโนมัติเอง ถ้าคุณแย้งกลับมาว่า "แล้วถ้าฉันไม่มีความรู้เพิ่มแต่ฉันมีเครื่องมือดีๆที่ทำเงินได้เร็วหละ" ผมก็จะถามคุณว่า "แล้วรู้ได้ไงว่ามีเครื่องมือดีๆ" ไม่ว่าคุณจะรู้อะไรเพิ่มก็แล้วแต่มันคือความรู้ทั้งหมด คุณรู้ว่ามีเครื่องมือดีๆนี้ก็คือความรู้ใหม่ของคุณ
       คุณจำใว้ว่า จงศรัทธาในตัวเอง อย่าประเมินตัวเองต่ำ ถ้าคุณอ่านเรื่องนี้แสดงว่าคุณกำลังหาวิธีสู่ความสำเร็จในชีวิต แต่ผมบอกตรงๆเลยนะครับว่า คุณต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้ดีหัดทำอะไรยากๆใว้เพราะเส้นทางนี้ยากลำบากยิ่งนัก ไม่มีอะไรง่าย คุณต้องขยันมากๆ อดทนมากๆ มีวินัย ผมกำลังพูดถึงการเพิ่มความรู้ความสามารถ 1,000 เท่าหรือมากกว่า ถ้าคิดว่าทำได้ไปลุยกันเลย

เพื่อความสะดวกติมตามบทความผ่านไลน์ได้ที่ เพิ่มเพื่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น

New post

10 อาชีพที่น่าสนใจ 2020

10 อาชีพที่น่าสนใจ 2020 1.ขนส่ง      การขนส่งมีมานานแล้ว แต่ความต้องการมันสูงขึ้น เพราะตลาดออนไล์ ทำให้ทุกวันนี้เกิดบริษัทเกี่ยวการขน...